11 สายพันธุ์พลู สวยงาม เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก ปลูกได้ทั้งในและนอกบ้าน
11 สายพันธุ์พลู สวยงาม เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก ปลูกได้ทั้งในและนอกบ้าน1. พลูอินโดหลังแดงพลูอินโดหลังแดง (Syngonium erythrophyllum 'Red Arrow') จัดอยู่ในวงศ์ Araceae ไม้เลื้อยใบสวย เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 2.5 เมตร จุดเด่นอยู่ที่ใบทรงหอก 2 สี ด้านบนสีเขียวเข้ม ส่วนหลังใบสีแดงอมม่วง แตกต่างจากพลูสายพันธุ์อื่น ๆ และเป็นต้นไม้ปลูกในบ้านที่ดูแลง่ายและเหมาะสำหรับมือใหม่ โดยปลูกในดินร่วนระบายน้ำได้ดี ตั้งกระถางไว้บริเวณที่มีแดดรำไร ทั้งควรหลีกเลี่ยงการปลูกในบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง เพราะใบและก้านพลูอินโดหลังแดงมีสารแคลเซียมออกซาเลต หากสัมผัสหรือรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง ปากบวม และหายใจลำบาก 2. พลูด่างพลูด่าง (Devil's Ivy หรือ Golden Pothos) มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Epipremnum aureum เป็นไม้เลื้อย ลำต้นกลมอ่อน มาพร้อมรากอากาศ ส่วนใบทรงหัวใจ สีเขียวปนเหลืองหรือขาว โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา สามารถปลูกลงในกระถางหรือในแจกันก็ได้ ทนโรค ทนแมลง โตได้ในทุกสภาพ ดูแลไม่ยาก ไม่ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบดินร่วนที่ผสมปุ๋ย ทรายหยาบ และใบไม้แห้ง ชอบอุณหภูมิประมาณ 18-24 องศาเซลเซียล ต้องการแสงแดดจัด ต้องการความชื้นสูง ต้องการน้ำสัปดาห์ละครั้ง หรือแล้วแต่สภาพหน้าดินและอากาศ
3. พลูทองพลูทอง หรือราชินีสีทอง (Golden Pothos) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Epipremnum aureum ‘Bunting Lime’ เป็นไม้เลื้อยอายุหลายปี กิ่งก้านออกสีเขียวอมเหลืองพร้อมขีดสีอ่อนตามแนวยาว ใบเป็นทรงไข่ สีเขียวอมเหลือง ปลายใบเรียว โคนใบเว้า ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา ส่วนดอกออกเป็นช่อเมื่อต้นสมบูรณ์ ซึ่งนอกจากความสวยงาม สดใส น่าปลูกแล้ว ยังแฝงคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษอีกด้วย สามารถพบเห็นได้ทั่วไป นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบดินร่วนซุย หรือไม่ก็ชอบอยู่ในน้ำหรือบนวัสดุเกาะ แข็งแรง ทนทาน ทนแดดได้ดี
4. พลูฉลุพลูฉลุ หรือพลูทะลุ (Window-leaf) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Monstera obliqua Miq. เป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีลำต้นและรากเลื้อยพันตามผิวดินหรือไม้หลัก ส่วนใบเป็นทรงรี ปลายใบแหลม โคนใบมน แผ่นใบเป็นรูแหว่งเล็ก-ใหญ่สลับกันไปทั้งสองฝั่งของเส้นกลางใบ ทำให้สวยงามแปลกตา จึงนิยมใช้เป็นไม้ประดับ ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โตได้ในดินทั่วไป ชอบแสงแดดร่มรำไร และต้องการความชื้นสูง
5. พลูงาช้างพลูงาช้าง หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ พลูช้าง พลูด่างอินเดีย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Epipremnum aureum (Linden & André) G. S. Bunting เป็นไม้อิงอาศัยที่มาพร้อมกับลำต้นสีเขียวอ่อนและใบทรงหัวใจสีเขียวด่างขาว ขอบเรียบ เนื้อบิดเล็กน้อย นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ เหมาะจะใช้เป็นไม้แขวนหรือไม้กระถาง ชอบดินร่วนมากเป็นพิเศษ ชอบบริเวณที่ร่มรำไร และชอบน้ำปานกลาง
6. พลูปีกนกพลูปีกนก หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ พลูระเบิด พลูใบย่น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Monstera Karstenianum. เป็นไม้เลื้อยที่มาพร้อมลำต้นทรงกระบอกขนาดเล็กและรากตามข้อปล้อง ส่วนใบเป็นทรงรี สีเขียวอมเหลือง ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนา สามารถมองเห็นเส้นใบได้ชัดเจน ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด ปลูกและดูแลไม่ยาก นิยมใช้เป็นไม้ในกระถางหรือไม้ในอาคาร นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โตได้ในดินทั่วไป ต้องการน้ำมากและแสงแดดรำไร
7. พลูนางฟ้าพลูนางฟ้า หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ นางฟ้าจำแลง ดาดตะกั่วเถา (Rex Begonia Vine) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cissus discolor Blume เป็นไม้ดอกหรือไม้เลื้อยอายุหลายปี ลำต้นเป็นเถา มาพร้อมมือเกาะสองง่าม สีม่วงอมแดง ใบทรงหัวใจ ด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีม่วงแดง สามารถมองเห็นเส้นใบได้ชัดเจน ส่วนดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด ผลเป็นทรงกลมสีแดงเข้มหรือม่วงเข้ม มีเมล็ดข้างใน 1 เมล็ด นิยมปลูกหรือขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบดินที่ร่วนโปร่ง ชอบน้ำปานกลาง และชอบแสงแดดรำไร
8. พลูลงยาพลูลงยา หรือพลูนาค (Celebes Pepper) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Piper ornatum N.E.Br. เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก อายุยืนหลายปี ลำต้นสีน้ำตาลแดง มีรากออกตามข้อ ส่วนใบเป็นรูปหัวใจ สีเขียวเข้มคล้ำปนลายสีชมพู ขอบใบเรียบ แผ่นใบบาง สามารถมองเห็นเส้นใบได้ชัดเจน แข็งแรง เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี ชอบแสงแดดรำไรและความชื้นสูง
9. พลูหัวใจแนบพลูหัวใจแนบ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ พลูซิลเวอร์ แนบอุรา (Satin Pothos, Silver hilodendron) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Scindapsus pictus Hassk. ‘Argyreus’ เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก ลำต้นทรงกลม มีรากอากาศออกตามข้อ ส่วนใบเป็นทรงหัวใจ ออกสีเขียวอมเทาหรือสีเขียวเข้ม พร้อมลายสีบรอนซ์เงินทั่วทั้งใบ นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โตช้าแต่ดูแลไม่ยาก ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี ต้องการน้ำปานกลาง และต้องการแสงแดดรำไร ส่วนใหญ่ผู้คนมักจะปลูกเป็นไม้เลื้อยเกาะผนังหรือไม้แขวนในกระถาง
10. พลูบราซิลพลูบราซิล หรือพลูเรือนแก้ว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Philodendron Brasil เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก ใบทรงหัวใจสีเขียวอ่อนปนเหลือง นิยมใช้เป็นไม้แขวน ไม้กระถาง และไม้ฟอกอากาศ สวยงาม ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก โตได้ทั้งในน้ำและในดิน ขึ้นได้ในดินเกือบทุกชนิด ชอบน้ำปานกลาง ชอบที่ร่มรำไร ควรหลีกเลี่ยงแดดจัด และหากเลี้ยงในบ้านควรให้โดนแดดบ้างเล็กน้อย
11. พลูหินอ่อนพลูหินอ่อน หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ ราชินีหินอ่อน พลูฝรั่ง (Devil's iIvy, Taro vine และ Marble Queen) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Epipremnum aureum (Lind. & Andre) Bunting 'Marble Queen' เป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อนขนาดเล็ก อายุหลายปี ลำต้นมีรากไว้เลื้อยพันกับไม้หลักหรือเสาหลัก กิ่งก้านออกสีเขียวและมีขีดสีอ่อนตามแนวยาว ใบทรงไข่สีเขียว พร้อมลายด่างสีขาวนวล ผิวเรียบ หนา อวบน้ำเล็กน้อย ออกดอกยากเฉพาะต้นที่สมบูรณ์ ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก โตเร็ว แข็งแรง ทนทาน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ขึ้นได้ในดินทั่วไป แต่ชอบดินร่วนซุยมากเป็นพิเศษ ต้องการความชื้นสูง ต้องการน้ำมาก ต้องการแดดปานกลางหรือร่มรำไร และไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน
โอ้โห นอกจากพลูด่างแล้ว ยังมีพลูชนิดอื่น ๆ ให้ปลูกอีกเพียบเลย เอาเป็นว่าใครอยากจัดสวนให้สวยแจ่ม เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ก็ลองเลือกสักต้นสองต้นที่ชอบไปปลูกกันดูนะคะ
ที่มา : https://home.kapook.com/view234386.html
|