11 อโลคาเซีย ไม้ประดับใบสวย โตไว ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก

11 อโลคาเซีย ไม้ประดับใบสวย โตไว ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก 

ทำความรู้จัก อโลคาเซีย ไม้ประดับใบสวย น่าปลูกจัดสวน แถมยังเลี้ยงง่าย โตไว มากประโยชน์ เหมาะกับสภาพอากาศเมืองร้อน พร้อม 11 สายพันธุ์อโลคาเซียยอดนิยม ไว้เก็บสะสมหรือเพาะขายก็ได้ 

 
อโลคาเซีย

 

 

ต้นไม้นอกจากจะปลูกเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยสร้างความร่มรื่นแล้ว ยังทำให้บ้านน่ามองมากขึ้นได้อีกด้วย โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีใบสวย ๆ และมีเอกลักษณ์ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปทำความรู้จักกับไม้ประดับใบสวยอีกหนึ่งชนิดที่ชื่อว่า อโลคาเซีย (Alocasia) ที่มีให้เลือกปลูกหลากหลายสายพันธุ์ แถมเลี้ยงไม่ยาก ดูแลง่าย และโตไว เข้ากับอากาศเขตร้อนแบบเมืองไทยได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่สนใจอยากปลูกสะสมหรือเพาะพันธุ์ขายก็ตามไปดูกันเลยค่ะ 

 

ลักษณะอโลคาเซีย
 
อโลคาเซีย แบล็กเวลเวด

 

 อโลคาเซีย หรือ บอนกระดาษ (Alocasia, Ear Elephant) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Alocasia indica Schott เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี จัดอยู่ในวงศ์ Araceae มีถิ่นกำเนิดในประเทศเขตร้อน โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย พม่า และไทย พบมากในที่ชื้น มีแดดรำไร และใกล้แหล่งน้ำ ลักษณะต้นอโลคาเซียจะมีเหง้าใต้ดิน ลำต้นตั้งตรงความสูงประมาณ 1-2 เมตร เกิดจากการซ้อนกันของกาบใบ นอกจากนี้ยังมีใบที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยมีใบแคบทรงไข่แกมรูปหัวใจ ดูคล้ายหอก ปลายแหลมโคนเว้าลึก แผ่นใบเรียบ เป็นมัน ขอบใบมีทั้งแบบเรียบและหยักเป็นคลื่นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เห็นเส้นใบชัดเจน ก้านใบใหญ่และยาวได้ถึง 1-1.5 เมตร มีออกดอกตามปลายยอดคล้ายดอกหน้าวัว และผลกลมสีเขียว ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ราคาของเหง้าอโลคาเซียประมาณ 30-50 ต่อหัว 

แต่เนื่องจากต้นอโลคาเซีย มีลักษณะคล้ายต้นไม้ตระกูลโคโลคาเซีย (Colocasia) เช่น เผือกและบอน อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกัน ซึ่งมีจุดสังเกตคือ ใบโคโลคาเซียจะมีปลายมน ใบแผ่กว้าง นอกจากนี้โคโลคาเซียมีแค่หัวใต้ดินแต่ไม่มีลำต้น 

 

ประโยชน์อโลคาเซีย 

นอกจากจะปลูกต้นอโลคาเซียไว้ประดับบ้าน แถมยังช่วยดูดซับความชื้นได้ดีแล้ว ส่วนต่าง ๆ ของต้นอโลคาเซีย ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ไหล และใบ ต่างก็มีประโยชน์ทางยา สามารถใช้เป็นยาระบาย ช่วยแก้ท้องผูก ห้ามเลือด และขับพยาธิได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ดีต้นอโลคาเซียมีสารแคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate)  หากสัมผัสหรือเข้าสู่ร่ากายอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง เช่น ผื่นคัน ผิวหนังบวมแดง ไม่ควรปลูกในบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง 
 

วิธีปลูกอโลคาเซีย
 
อโลคาเซีย

 

 

ต้นอโลคาเซีย นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ เพราะทำง่ายและใช้เวลาสั้นกว่าการเพาะเมล็ด โดยปลูกได้ทั้งดินเหนียวและดินร่วนผสมวัสดุปลูก เช่น หินภูเขาไฟ และเนื่องจากเป็นไม้ประดับชอบความชื้นสูง ดังนั้นควรหมั่นรดน้ำให้ดินชุ่มแต่ไม่แฉะ อย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน และลดการรดน้ำในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ปลูกได้ทั้งในที่มีแดดโดยตรง แดดรำไร และในร่ม ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของอโลคาเซีย 

วิธีดูแลอโลคาเซีย

อโลคาเซียจะโตไวและใบสวยหากปลูกในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และดูแลอย่างถูกต้อง โดยควรระวังไม่ให้ดินแห้ง ใส่ปุ๋ยบำรุงอยู่เสมอ 2-3 เดือนต่อครั้ง และไม่โดนแดดจัดนานเกินไปหรือขาดแสงแดด เพราะอาจจะทำให้ใบร่วงหรือใบเหลืองได้ นอกจากนี้ควรเปลี่ยนกระถางให้เหมาะกับขนาดต้น เพื่อไม่ให้รากขดแน่นจนเกินไป นอกจากนี้หากไม่อยากให้มีแมลงมารบกวน เช่น เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน ไรแดง ให้ฉีดพ่นรอบ ๆ ต้นด้วยน้ำสบู่หรือน้ำมันสะเดาก็จะช่วยป้องกันศัตรูเหล่านี้ได้พร้อมกำจัดฝุ่นไปในตัว 

สายพันธุ์อโลคาเซียน่าปลูก

1. บอนหูช้างด่าง

บอนหูช้างด่าง

 

 

บอนหูช้างด่าง หรือ อโลคาเซีย กาเกียนา อัลโบ วาริเอกาตา (Alocasia gageana ‘Albo-Variegata’) อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความสวยงามเฉพาะตัว ใบกว้างโคนเว้า ปลายใบแหลมยาว คล้ายรูปหัวใจ และของสีและลายด่างของใบที่ไม่เหมือนใคร เลยทำให้กลายเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสมแถมยังส่งผลให้ราคาของต้นไม้ชนิดนี้แพงขึ้นตามไปด้วย เมื่อโตสามารถสูงได้ 45-90 เซนติเมตร ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี มีความชื้นสูง เหมาะสำหรับปลูกในที่โดนแดดช่วงเช้า และแดดรำไร ไม่ควรให้โดนแสงแดดแรง ๆ เช่น แดดช่วงบ่ายโดยตรง เพราะจะทำให้เกิดปัญหาใบไหม้ได้ 

2. อโลคาเซีย มาโครไรซอส

 

 

อโลคาเซีย มาโครไรซอส (Alocasia Macrorrhiza) หรือบอนกระดาด (Giant Taro) เป็นสายพันธุ์อโลคาเซียที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จุดเด่นของสายพันธุ์นี้คือ ใบขนาดใหญ่สีเขียว ผิวใบมัน รูปร่างคล้ายหัวลูกศร และใบอาจมีความกว้างได้มากถึง 1 เมตร และลำต้นสูงได้ถึง 2 เมตร สามารถปลูกได้ทั้งในบ้านและจัดสวนหากมีพื้นที่เพียงพอ อีกทั้งหากเป็นอโลคาเซีย มาโครไรซอสด่าง (Alocasia Macrorrhiza Variegata) หรือบอนกระดาดด่างจะมีคนนิยมปลูกมากกว่า แตกต่างจากอโลคาเซีย มาโครไรซอส ที่ใบจะมีรอยด่างขาวอมเทาปนอยู่ด้วย

 

3. อโลคาเซีย เมโล

อโลคาเซีย เมโล

 

 

อโลคาเซีย เมโล (Melo) มีลำต้นขนาดเล็ก ส่วนใบมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก สีเขียวเข้ม ผิวใบสากเล็กน้อย ก้านใบอวบน้ำ เหมาะสำหรับปลูกกระถางและวางประดับในบ้าน

 

4. อโลคาเซีย ฟรายเด๊ก

อโลคาเซีย ฟรายเด๊ก

 

 

อโลคาเซีย ฟรายเด๊ก (Alocasia Micholitziana Frydek) อีกหนึ่งสายพันธุ์อโลคาเซียนิยมปลูก มีจุดเด่นที่ใบสีเขียวเข้ม เส้นกลางใบเห็นชัดเจน และมีสีขาวสีเดียวกับก้านใบ ปลายใบแหลม โคนเว้าลึก ขอบใบหยัก ลำต้นมีขนาดกลางความสูงประมาณ 2 เมตร

 

5. อโลคาเซีย ซานเดอเรียนา

อโลคาเซีย ซานเดอเรียนา

 

 

อโลคาเซีย ซานเดอเรียนา  (Alocasia Sanderiana) ใบทรงหอกขนาดใหญ่ ปลายใบแหลม โคนใบเว้าลึก ขอบใบหยักเป็นคลื่น ผิวใบมัน เส้นกลางใบสีขาว-เงินเห็นชัดเจน เป็นหนึ่งในต้นกำเนิดของสายพันธุ์ Alocasia amazonica หรืออโลคาเซีย แก้วสารพัดนึก และทำให้ทั้ง 2 สายพันธุ์มีลักษณะคล้ายกันนั่นเอง

 

6. อโลคาเซียปลากระเบน

อโลคาเซียปลากระเบน

 

 

อโลคาเซียปลากระเบน หรืออโลคาเซีย สตริงเรย์ Alocasia Macrorrhiza ‘Stingray’ ลักษณะใบจะค่อนข้างแตกต่างจากอโลคาเซียสายพันธุ์อื่น

เพราะมีใบทรงกลม ปลายใบยาวและแหลม ผิวใบมันสีเขียวเข้ม ก้านใบมีสีขาวสลับดำ ความสูงประมาณ 1-2 เมตร เหมาะสำหรับปลูกประดับใน

บ้านเช่นเดียวกัน 

7. อโลคาเซียม้าลาย

 

 

อโลคาเซียม้าลาย (Alocasia Zebrina) จุดเด่นของอโลคาเซียสายพันธุ์นี้นอกจากจะก้านใบจะมีลายสีดำสลับเหลืองและใบทรงหอกแล้ว จะไม่มี

เส้นกลางใบสีขาว และโคนใบเว้าลึกเกือบถึงกลางใบ อีกทั้งความหนาของใบยังบางกว่าอดลคาเซียสายพันธุ์อื่นด้วย 

 

8. อโลคาเซีย ดราก้อน สเกล

อโลคาเซีย ดราก้อน สเกล

 

 

อโลคาเซีย ดราก้อน สเกล (Alocasia Dragon Scale) อโลคาเซีย สเกล หรืออโลคาเซีย เกล็ดมังกร มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย มีใบสีเขียว

หรือเขียว-เงิน เส้นกลางใบสีเขียวเข้ม ขอบใบเรียบสีเขียวอ่อน แต่ใต้ใบจะเป็นสีเขียวอ่อนตัดด้วยเส้นกลางใบสีน้ำตาลอมแดง 

 

9. อโลคาเซีย เรดซีเคร็ท

อโลคาเซีย เรดซีเคร็ท

 

 

อโลคาเซีย เรดซีเคร็ท (Alocasia Red Secret) อีกหนึ่งสายพันธุ์อโลคาเซียยอดนิยม เพราะมีความสวยงามไม่เหมือนใครของใบโทนสีแดง-ชมพู

ผิวใบมันเป็นเงา เส้นกลางใบสีแดงเข้ม ตัดกับก้านสีเขียวอ่อนได้เป็นอย่างดี ลำต้นมีขนาดกลางความสูงประมาณ 1 เมตร เหมาะสำหรับปลูก

ประดับบ้านมากทีเดียว     

10. อโลคาเซีย พญานาคราช

อโลคาเซีย พญานาคราช

 

 

อโลคาเซีย พญานาคราช (Alocasia Lauterbachiana หรือ Purple Sword) แตกต่างกับสายพันธุ์อื่นตรงที่มีใบยาวและแคบกว่า โดยมีใบทรง

หอกและดูคล้ายดาบ ปลายใบแหลม ขอใบหยักเป็นคลื่น ผิวใบด้านบนมีสีเขียว ในขณะที่ใต้ใบเป็นสีม่วง สามารถยาวได้ถึง 24 นิ้ว เมื่อโตเต็มที่ลำต้นจะสูงประมาณ 3-4 เมตร 

 

11. อโลคาเซีย แบล็กเวลเวด

อโลคาเซีย แบล็กเวลเวด

 

 

อโลคาเซีย แบล็กเวลเวด  (Alocasia Reginula 'Black Velvet') อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะใบที่มีความหนากว่าสายพันธุ์อื่น รูปทรงหัวใจ สีของใบเขียวเข้มเกือบดำตัดกับเส้นกลางใบสีขาว-เงินได้อย่างสวยงาม ลำต้นมีขนาดประมาณ 12-18 นิ้ว 

เรียกได้ว่าความน่าสนใจของไม้ประดับอย่าง อโลคาเซีย มีมากมายเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะปลูกประดับบ้านและใช้จัดสวนได้แล้ว ส่วนต่าง ๆ ของอโลคาเซียยังมีสรรพคุณทางยาช่วยบรรเทาอาการป่วยได้ด้วย อีกทั้งแต่ละสายพันธุ์ก็มีจุดเด่นและความสวยงามที่แตกต่างกันไป ปลูกไม่ยาก โตไว แถมดูง่าย หากสนใจต้นไม้ชนิดนี้ก็ลองนำข้อมูลที่นำมาฝากกันในวันนี้ไปลองพิจารณากันดูนะคะ 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก thespruce.comextension.wisc.eduroyalparkrajapruek.orgagri.kps.ku.ac.thrspg.or.thdtam.moph.go.th
 
 
 
 
 
 
Visitors: 2,677